เล่าการทำบุญใหญ่ "ไถ่ชีวิตแม่กระบือตั้งท้อง" ในเดือนปีใหม่ไทย
ep.1 ค่าเขียงหน้าโรงเชือด 59,000 บาท บอกบุญจากเพจเฟสบุ๊ค
"กองบุญ วัดจอเจริญสุขุมวาท" อ.เวียงชัย จ.เชียงราย
เมื่อบุญสำเร็จแล้ว พระอาจารย์ได้รวบรวมเงินจากผู้บริจาค
นำไปไถ่ชีวิตแม่กระบือ และได้มีการไลฟ์สดเมื่อแม่กระบือมาถึงสวนเกษตร
เพื่อการเรียนรู้ เห็นแม่กระบือลงจากรถแล้วรู้สึกปลื้มใจมาก
ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งเล็กๆในกองบุญใหญ่ในครั้งนี้ค่ะ
บรรยายด้วยรูปภาพ
รีวิว! บูชาพระรอดใบมะขามลำพูน เนื้อเงินพร้อมกรอบเงินแท้แสนปราณีต วัดมหาวัน จ.ลำพูน พุทธาภิเษก เมื่อ ๓๐ เมษายน ๒๕๓๖ พร้อมเลี่ยมกรอบเงินแท้ กันน้ำอย่างดี ดั่งต้องมนต์ขลังด้วยความศรัทธา อยากได้มาบูชาครั้งแต่เยาว์วัย เวลาฝันนั้นล่วงเลยมาเกินครึ่งชีวิต กว่าจะมีวันที่ได้สมใจหมาย ในระหว่างที่พูดประกอบรีวิวไปนั้น ได้รับรู้ถึงกลิ่นดอกไม้ธูปเทียนใน*ขันธ์ ๕* หน้าวิหารหลวง หอมละมุนอบอวลสบายใจไปจนจบคลิป! เหมือนได้ย้อนกลับไปในตอนเด็กที่ได้ไปวัดกับแม่อุ้ยดี ในวันพญาวัน ปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่ เมื่อ ๕๐ ปี ที่ผ่านมา!
วิธีแก้ปีชง 2565 ในแบบแอนนี่สตอรี่ ทำพิธีฝากดวงชะตา การไหว้องค์ไท้ส่วยเอี้ย ทำบุญโลงศพ เติมน้ำมันตะเกียง สามารถที่จะช่วยบรรเทาเคราะห์กรรมในปีชงนี้ให้บรรเทาเบาบางลงได้เพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์และเสริมสิริมงคลให้กับตัวเอง และเชิญฮู้แดงหลวงพ่อไต้ฮงกง อันศักดิ์สิทธิ์มาติดประตูบ้าน🏡ให้ปลอดภัย#ขับไล่สิ่งชั่วร้ายได้ มีประสบการณ์ที่รับรู้ได้! อย่างน่าอัศจรรย์ใจ ปล.โปรดใช้วิจารณญานในการรับชม!🏡
เมื่อคนเรากำลังเจอกับปัญหาชีวิตอย่างหนัก! เปรียบดั่งกำลังเจอกับ "มรสุมชีวิต"
ได้เข้ามากระทบจิตใจ เข้ามารุมเร้ากับชีวิตในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการเงิน
ด้านการงาน ปัญหาในเรื่องคน จะพูดอะไร จะทำสิ่งไหน กระดิกตัวอย่างไรก็มัก
เป็นปัญหาไปเสียทุกสิ่งทุกอย่าง มีปัญหาเกิดขึ้นกันได้อยู่ทุกวันเลยทีเดียว ถ้า
ผู้ใดไม่เคยเจอกับมรสุมชีวิต มีสารพัดปัญหามารุมเร้าเช่นนี้ ก็คงจะไม่ค่อยเข้าใจ
แต่หากคนใดที่กำลังเจอกับ "มรสุมชีวิต" ตามที่ได้เกริ่นนำไว้นั้น! ก็พึงตระหนัก
เรากำลังเจอกับมรสุมชีวิต เพื่อชดใช้กับ "วิบากกรรม" ที่ตัวเราเองนั้นทำมา หรือ
จะพูดว่า "ดวงตก!" ถึงคราวเคราะห์กรรม หรือจะเรียกว่าอะไรก็แล้วแต่สะดวกใจ
แต่มรสุมชีวิตที่ได้กระหน่ำมานั้นมันทำให้ทุกข์ใจมากกันแค่ไหนกัน!? ก็หนักแค่
ใจใครอ่อนแอ ก็แพ้ไป! จนแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปก็แล้วกัน! ดังที่เราได้เห็น
เชิญชมคลิปวิดีโอ
ได้ฟังข่าวเศร้าเป็นโศกนาฎกรรมในครอบครัวกันอยู่เสมอ ชีวิตเขามันมึดมนไปทุกๆ
ด้าน มีความคิดว่าเขาไม่มีทางออก หาหนทางแก้ไขไม่ได้เลย จึงคิดไม่อยากอยู่ใน
โลกใบนี้แล้ว ลาโลกนี้ไปคนเดียวก็ยังไม่พอ บางทีก็ห่วงยึดติดกับคนในครอบครัวอีก
พาเขาไปด้วย โดยที่บางคนเขายังไม่อยากไปจากโลกนี้ก่อนเวลาอันควรเสียด้วยซ้ำ!
ข่าวเศร้าแสนสะเทือนใจยามที่ได้ยินได้ฟัง! หนทางแก้ปัญหาชีวิตยังมีอีกมากมายนัก
ตัวเราเองนั้นก็เคยพบกับมรสุมชีวิตนั้นมาก่อน รู้ว่ายามมรสุมมันกระหน่ำซ้ำเติมนั้น!
ทุกข์ใจมาก พาจิตเตลิดเปิดเปิงอย่างมากทีเดียว คุมแทบไม่อยู่คิดแต่อยากหนีให้พ้น
อยากจะหนีไปอยู่กลางป่าลึกๆ ที่ไม่มีคนอยู่กันเลยทีเดียว! ยากทุกข์หนักก็ทำได้เพียง
หันหน้าพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อยึดเหนี่ยวจิตใจไม่ให้บ้า! ได้แต่ร้องไห้ฟูมฟายปานใจจะขาด
พยายามนั่งสมาธิเพื่อเรียกสติตามครูบาอาจารย์แนะนำมา ขอหนทางแก้ไขปัญหาให้พ้น!
ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ครูบาอาจารย์ที่เคารพนับถือช่วยให้พบกับหนทางแก้ไขให้ออกจากมรสุม
ชีวิตให้ได้ไวๆ ขอวิงวอนเป็นร้อยเป็นพันๆครั้ง ได้ขออโหสิกรรมกับเจ้ากรรมนายเวร หยาด
น้ำฝากไปกับพระแม่ธรณีเจ้าที่เจ้าทางเพื่อให้สัมฤทธิ์ผล ถ้านำน้ำหยาดมาเทรวมกันในโอ่ง
มังกรใบใหญ่ๆ ก็คงจะเต็มโอ่งได้เลย จนวันหนึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์คงได้รับรู้ถึงความทุกข์หนักนั้น
คงคิดเวทนายิ่งนัก จึงมาให้รับรู้ในสมาธิว่า *จงทำตัวทำใจให้นิ่งๆ* นี่เป็นหนทางที่ดีที่สุด !
เป็นคำตอบให้หนทางแก้ไขที่สั้นๆง่ายๆ แต่ตัวเราทำได้ยากมากเหลือเกิน! เพราะว่าใจมันดิ้น
ใจร้อนดิ้นรนไม่รู้จบสิ้น คอยแต่จะคิดหาทางแก้ไขเพื่อจะทำให้พ้นจากปัญหาพ้นจากทุกข์ได้
ยิ่งดิ้นรน ก็ยิ่งรัดจนแทบหายใจหายคอไม่ออก ทุกๆอย่างมันเลวร้ายลงไปเรื่อยๆ ยิ่งทำยิ่งเสีย
ใช้เงินลงทุนทำกิจการวางแผนดีแค่ไหนก็ไปไม่รอดทำให้หนี้สินก็ทบเท่าทวีคูณ ลงแรงทุ่มเท
สุดตัวก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ยิ่งเสียความรู้สึกมากขึ้นๆ สูญเสียเวลาที่ใช้ไปโดยเปล่าประโยขน์ยาวนาน
มาถึงเวลานี้ได้พ้นวิบากกรรมมรสุมชีวิตนั้นได้ผ่านพ้นไปแล้ว ด้วยการใช้เวลาอย่างยาวนานมาก
เกือบ 20 ปี มองย้อนกลับไปดูอีกครั้ง!เหมือนกราฟชีวิต มีปัญหาที่เป็นจุดพีคอยู่หลายครั้งด้วยกัน
มีจุดพีคจุดสูงสุดที่เป็นมรสุมชีวิตอยู่ท่ามกลางระยะเวลานั้นด้วย ได้คิดถึงคำตอบที่ได้มาในสมาธิ
สิ่งศักดิ์ได้บอกหนทางแก้ไขให้ทางออกจากมรสุมชีวิตนั้นไว้ว่า " ให้อยู่นิ่งๆ " เป็นคำตอบถูกต้อง
ที่สุด 100% แต่บุญคงไม่มากพอ! ถ้านิ่ง!ปล่อยวางได้จริงๆคงใช้เวลาพ้นมรสุมได้เพียงไม่นานนัก!
เชิญชมคลิปวิดีโอ
ตอน 4. คู่ครองต้องจำพราก! "ไม่จากเป็นก็จากตาย"
เนื่องมาจากปัญหาเรื่องเงิน ที่เป็นปัญหาใหญ่ในการใช้ชีวิตประจำวัน จึงเป็นสาเหตุหนึ่ง
ที่ทำให้ความรักนั้นจืดจาง และทำให้ต้องอยู่กับคนละที่ละทาง ต่างก็มีหน้าที่ต้องดิ้นรน
อย่างหน้าดำคร่ำเครียด ในการหาเงินมาใช้จ่ายภายในครอบครัว
ในวันหยุดราชการวันหนึ่ง หัวหน้างานดับเพลิงที่เป็นคนลำปาง ได้มาชวนไปหาหมอดู
บอกว่าหมอดูคนนี้ทายแม่นมาก บ้านอยู่ในหมู่บ้านนอกเมืองลำปาง มักมีคนมาดูดวง
กันมาก ใยบัวได้เดินทางไปลำปางด้วยรถปิคอัพของหัวหน้าดับเพลิง ระยะทาง 60 กม.
บ้านของหมอดู เป็นบ้านไม้ชั้นเดียวปลูกอยู่ในที่ดินกว้างอยู่กลางหมู่บ้าน ได้เห็นคนมา
รอก่อนหน้าอยู่ 4-5 คน เมื่อถึงคิวใยบัวก็ใส่เงินลงในพานขันตั้ง ซึ่งเห็นมีเงินใบยี่สิบอยู่
หมอดูก็ได้ถามวันเดือนปีเกิด จดลงไปในสมุดแล้วดูทักทายไปตามพื้นของดวงชะตา ใน
เรื่องการเงินที่ผ่านมานั้นต้องพบกับปัญหาอย่างหนัก! ต้องอยู่กับปัญหานี้ไปอีกยาวนาน
ในเรื่องการงาน ก็เจออุปสรรคปัญหาทุกเรื่องที่หนักใจสุดก็เป็นเรื่องคนในที่ทำงาน และ
อีกไม่นานนักก็จะต้องโยกย้ายหน้าที่การงานอีกครั้ง ส่วนเรื่องความรักนั้น อยู่ในเกณฑ์
ต้องแยกทางกันไป ไม่จากเป็นก็ต้องจากตาย เมื่อหมอดูทักมาถึงเรื่องนี้จึงทำให้ใยบัว
รู้สึกตกใจ! เพราะไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าจะต้องมาเลิกร้างห่างกันไปในเวลานี้
ลูกก็ยังเล็กอยู่เลย! เพิ่งสองขวบกว่าๆ เอง
หลังจากวันไปดูดวงที่ลำปางแล้ว ใยบัวก็ใช้ชีวิตกับการทำงานไปตามปกติ งานต้อง
รับผิดชอบมากขึ้นๆ มีโครงการต้องทำและติดตามงานอยู่เสมอ วันหยุดราชการ วันหยุด
ตามประเพณี เช่นวันสงกรานต์ วันลอยกระทง ก็ไม่ได้หยุดพักกลับต้องทำงานมากกว่า
ทำให้ไม่มีเวลากลับไปบ้านที่เชียงใหม่เลย จึงทำให้เราต่างก็ต้องห่างกันไปโดยปริยาย
แต่ก็พอจะได้รู้ความเคลื่อนไหวของเขาที่บ้านสวนอยู่บ้างเป็นระยะๆ เพราะคนที่ทำงาน
ดับเพลิง เขาชอบไปเดินป่าล่าสัตว์ที่ป่าบริเวณใกล้กับบ้านไร่ที่เชียงใหม่
ในช่วงปีที่ 2. ที่ทำงานอยู่ลำพูน ใยบัวมีหนี้สินรัดตัวมากขึ้นจนไม่มีเงินเหลือไปช่วยใน
การลงทุนที่บ้านไร่ อีกทั้งลูกสาวก็ต้องมาอยู่บ้านยายในตัวเมืองเชียงใหม่ ไม่ได้อยู่
กับพ่อที่บ้านไร่ จึงทำให้เขามีอิสระได้พาผู้หญิงเข้ามาหลับนอนในบ้านกันเลยทีเดียว!
ใยบัว นั้นรู้ถึงความเจ้าชู้มาโดยตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน แต่ถ้าจับไม่ได้ไล่ไม่ทันเขาก็จะ
ปฏิเสธไม่ยอมรับอะไรเลย! กับการกระทำที่ทำให้ครอบครัวต้องเดือดร้อนเรื่องผู้หญิง
เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ก็นำมาเล่าให้ฟังว่าได้ไปเจอผู้หญิงอยู่ในบ้าน ตอนที่ไปหาที่บ้านไร่
ในที่สุดความอดทนของใยบัวก็ถึงขีดจำกัดจึงออกปากขอหย่า ในทีแรกเขาไม่ยอมหย่า
แต่เมื่อได้ยินเหตุผลที่บอกว่าใยบัวมีหนี้สินจำนวนมาก ถ้ามีการฟ้องร้องขึ้นมาก็จะต้อง
ได้รับผิดชอบหนี้สินด้วย เขาจึงได้ยินยอมและนัดกันไปเซ็นต์หย่าที่อำเภอในวันถัดไป!
ก็ได้ถึงวันที่ต้องจำพรากจากกันไปในชีวิตรักคู่ครอง ได้ใบหย่า!กันตามนิตินัยซึ่งเป็นการ
จากเป็น นับว่าในโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่ที่ว่าชาตินี้ถ้าชีวิตยังไม่สิ้นเราทั้งสองก็ยัง
จะยังมีโอกาสพบเจอได้ทำหน้าที่พ่อแม่และได้เห็นกันอยู่ในชาตินี้ในสักวันหนึ่งข้างหน้า!
โปรดติดตามชม ตอน 5.
"เมื่อจิตถูกกระทบ! กับองค์บารมีแรก! ตามสายญาณกษัตริย์นักรบ เมืองละโว้ 300 กว่าปี"
บ้านเช่าหลังแรกที่ลำพูน ของ "ใยบัว"
เป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ที่ปลูกบนเนินสูง เดินขึ้นบันไดด้านหน้าบ้าน
แล้วก็จะเป็นชานระเบียงนั่งพักผ่อนก่อนที่เข้าประตูหน้าบ้าน มีห้องรับแขก
เป็นห้องโถงเดินไปยังห้องนอน 2 ห้อง ส่วนด้านในสุดของตัวบ้านก็จะเป็นห้องครัวและห้องน้ำ
มีโรงจอดรถยนต์ บ้านหลังนี้ยังมีสภาพดี พื้นบ้านปูด้วยไม้ปาเก้ มีรั้วรอบขอบชิด
อยู่ห่างจากบ้านคนเล็กน้อย ด้านหลังบ้านเป็นที่ดินว่างเปล่าที่เต็มไปด้วยต้นไมยราพยักษ์
ทำเลของบ้านนี้ดูเป็นส่วนตัวและบรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบ !
เชิญชมวิดีโอเล่าเรื่อง
ตอน 2. คืนแรกคืนหลอน ! คืนนอนไม่หลับ !
@กับบ้านเช่าหลังแรกที่ลำพูน ของ *ใยบัว*
การย้ายที่ทำงานมาอยู่เมืองลำพูน ที่มีระยะทางห่างจากบ้านเกิดที่เชียงใหม่
เพียง 35 กิโลเมตร "ใยบัว" สามารถเดินทางไป-กลับบ้านได้อย่างสบายๆ แต่
เนื่องจากใยบัวเป็นหัวหน้ากองที่ต้องรับผิดชอบสูง คอยควบคุมดูแลบริหารงาน
ในกองอยู่ 6 งาน ด้วยกัน ซึ่งมีงานดับเพลิง อยู่ในกองด้วยที่ต้องรับผิดชอบป้อง
กันภัยอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง ที่ผู้ปฏิบัติงานจะต้องสับเปลี่ยนเวรกันเข้ามาทำงาน
ใยบัว จึงมีความจำเป็นต้องเช่าบ้านพักไว้ที่เมืองลำพูน จากการเบิกค่าเช่าได้จาก
หน่วยงาน อีกทั้งใยบัว ยังมีตำแหน่งเป็นหัวหน้ากอง ที่ต้องมีหน้าที่ออกไปพบปะ
กับชุมชนต่างๆที่อยู่ภายในเขตรับผิดชอบ ตามโครงการออกพบปะประชาชน ที่
ต้องออกไปทำงานนอกสำนักงานในตอนช่วงเย็นหลังเลิกงาน และอาจมีบางครั้ง
บางโครงการของส่วนราชการอื่นที่ต้องร่วมกันออกหน่วยในวันเสาร์ /วันอาทิตย์
เดือนแรกที่ใยบัว ย้ายที่ทำงานมาอยู่ลำพูน สองสัปดาห์แรก ยังเดินทางไปกลับบ้าน
ที่เชียงใหม่ จนถึงวันเริ่มออกพบปะชุมชน จึงได้เตรียมสิ่งของใช้ และเสื้อผ้ามาอยู่
จำนวนหนึ่ง เพื่อจะเริ่มมานอนพักค้างในบ้านเช่าที่เช่าทิ้งไว้ตั้งแต่ต้นเดือน เป็นคืนแรก
บ้านเช่าหลังแรกของใยบัว เมื่อเดินผ่านเข้าไปยังประตูรั้วหน้าบ้านแล้ว มองตรงจะเห็น
โรงรถที่มุงหลังคาไว้โล่งๆ เมื่อมองเยื้องไปทางด้านซ้ายมือเล็กน้อยก็จะเป็นบันไดทางขึ้น
บ้านเช่าเป็นบ้านปูนชั้นเดียวที่ปลูกอยู่บนเนินสูง เดินขึ้นบันไดไปก็จะเจอลานระเบียงที่
ที่มีที่นั่งพักรอบระเบียง ประตูทางเข้าบ้านเจอห้องรับแขกเป็นห้องโถงเป็นทางเดินโล่ง
ผ่านห้องนอน 2 ห้อง และด้านหลังสุดตัวบ้านก็เป็นหัองครัว และห้องน้ำ 1 ห้อง มีหน้าต่าง
มองออกไปด้านหลังนอกรั้วออกไปเป็นที่ดินจัดสรรที่ทิ้งร้างไว้ปกคลุมไปด้วยต้นไม้
ต้นไมยราพยักษ์ ติดแนวรั้วด้านหลัง สูงจนเลยหน้าต่างของบ้านเช่า มองดูแสนอ้างว้าง!
ใยบัว ไม่ได้มาติดต่อเช่าบ้านหลังนี้ เป็นลูกน้องพนักงานขับรถส่วนกลางที่เป็นคนมาติดต่อ
หาบ้านเช่าหลังนี้ให้ ดังนั้นใยบัวจึงไม่รู้จักกับเจ้าของบ้านเช่า! ในวันแรกที่ต้องออกชุมชน
ใยบัวได้นำของใช้เสื้อผ้าที่เตรียมมาจากบ้านตอนเช้าที่มาทำงาน และในตอนพักเที่ยงก็ได้
นำสิ่งของที่เตรียมมานั้นไปไว้ที่บ้านเช่าหลังนั้น ใยบัวเดินขึ้นไปบนบ้านเพื่อนำของไปเก็บ
ที่ห้องนอน เดินผ่านห้องรับแขกโถงทางเดินเห็นกรอบรูปผู้ชายแต่งกายเครื่องแบบปกติขาว
คนเช่าเพื่อจะได้มีรายได้เพิ่ม แล้วใยบัวก็เดินเอาของไปเก็บในห้องนอนด้านซ้ายมือที่ติดกับโรง
จอดรถด้านข้างมองผ่านหน้าต่างไปก็เห็นโรงรถที่ว่างเปล่า ห้องนอนนี้เป็นห้องใหญ่กว่าอีกห้อง
ภายในห้องไม่มีเฟอร์นิเจอร์ใดๆ มีเพียงที่นอนที่วางไว้สำหรับนอนอยู่บนพื้นที่เป็นไม้ปาเก้มันวาว
ดูสะอาดตา คงผ่านการดูแลและทำความสะอาดมาอย่างดีเลยทีเดียว ใยบัวคิดพิจารณาในใจ!
ในคืนวันนั้น! หลังจากเลิกจากการพบปะชุมชนแล้วก็กลับมาบ้านเช่า เวลาประมาณเกือบ 3 ทุ่มได้
ก็รีบไปอาบน้ำเข้านอน เพราะรู้สึกว่าบรรยากาศมันช่างวังเวงเงียบเหงา อาจจะเป็นเพราะบ้านหลัง
นี้มันอยู่ห่างจากบ้านที่อยู่ตรงปากซอยทางเข้ามา ที่ดินบริเวณนี้น่าจะเป็นที่ดินจัดสรรไว้ให้ปลูกบ้าน
ที่บ้านคนอยู่ห่างๆกัน รวมถึงบ้านเช่าหลังนี้โดยรอบรั้วก็เป็นเพียงที่ดินว่างเปล่า ที่มีหญ้าปกคลุมอยู่
ก่อนจะเข้าห้องนอน ก็ได้เปิดไฟด้านนอกที่เป็นโถงทางเดินไว้ และเปิดไฟด้านนอกที่เป็นโรงรถที่อยู่
ติดกับหน้าต่างห้องนอนไว้ด้วย เป็นหลอดนีออนยาว ไฟสว่างเข้ามาถึงในห้องนอน เป็นคืนแรกในบ้าน
เช่าที่ "ใยบัว" ต้องนอนอยู่คนเดียวเพียงลำพัง ในคืนแรกต่างบ้านต่างเมือง ใยบัวนอนไม่หลับ! นอนคิด
ไปถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้...เวลาก็ผ่านไปจนดึกดื่น ก็ยังไม่สามารถข่มตานอนหลับได้เลย รู้สึกแปลกมาก !
ใยบัว ก็ต้องตกใจ! เมื่อได้ยินเสียงเหมือนกับคนเดิน.....อยู่ตรงห้องโถงทางเดินนอกห้องนอน จึงรีบหัน
ไปมองที่ต้นเสียงตรงบานประตูไม้ของห้องนอน มองผ่านแสงที่ลอดเข้ามาตรงช่องว่างด้านล่างของ...
บานประตูไม้ ที่ห่างจากพื้นไม้ปาเก้ประมาณ 1 นิ้ว ที่ช่องว่างนี้ถูกบังไว้ด้วยประตูมุ้งลวดกันยุงเข้าเท่านั้น
"ใยบัว"แทบหยุดหายใจ! เมื่อมองไปเห็น"ชายขากางเกงสีขาว" ของผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูห้องนอน
จึงรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปง นอนเหงื่อแตกจนถึงรุ่งเช้า! ก็รีบอาบน้ำแต่งตัวโทรเรียกพนักงานขับรถมารับ
ไปที่ทำงาน แล้วไม่กลับมาที่บ้านเช่านี้อีกเลย! ยอมเสียค่าเช่าไป 1 เดือน แล้วก็ย้ายไป บ้านเช่าหลังที่ 2.
บ้านเช่าหลังนี้ไกลจากที่ทำงานมาก จึงอยู่ได้ไม่นานนักก็ต้องย้ายไปบ้านเช่าหลังที่ 3.อยู่ด้านหลังที่ทำงาน
ในบ้านเช่าหลังที่ 3. นี้ "ใยบัว" รู้สึกว่า!.....
มี*พลังงานลึกลับ!*อะไรบ้างอย่าง! ที่มากระทบกับจิตใจ ได้ยินเสียงผู้ชาย!?
โปรดติดตามเรื่องเล่าใน#ตอนที่ 3.
"พลังงานลึกลับ! ได้ยินเสียงผู้ชายดังก้องบอกเลขหวย 3 ตัว ในเช้ามืด!..ของวันหวยออก"
ตรงข้ามกับสำนักงานเป็นวัดเก่าแก่ของเมืองลำพูน ส่วนห้องทำงานของใยบัวนั้น
อยู่ด้านหลังห้องบริการทะเบียนราษฎร เป็นห้องมุมสุดของตัวอาคารสำนักงานนี้
ซึ่งติดกันกับสวนหย่อม มีหน้างต่างที่สามารถพักผ่อนสายตาโดยการมองสวนดอกไม้
มีลานหญ้าสีเขียวเป็นลานกว้างออกไปจนสุดกำแพงรั้วสำนักงาน อยู่ในทิศตะวันออก
ตรงมุมห้องทำงานมีโต๊ะเล็กสูงระดับขอบหน้าต่าง เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ใยบัวเคารพนับถือ
มีพระรอดหลวงลำพูนองค์สีดำ ที่หัวหน้างานดับเพลิงเป็นผู้ให้มา และมีกรอบรูปของเจ้า
แม่จามเทวี ที่ใยบัวกราบไหว้ขอพรในทุกเช้าที่ได้เข้ามายังห้องทำงานแห่งนี้ และตั้งจิต
อธิษฐานระลึกถึงอยู่เสมอในยามที่ใยบัว ประสบพบเจอกับปัญหาการทำงาน รวมถึงเรื่อง
ปัญหาคำพูดใส่ร้ายป้ายสีของคนในที่ทำงานจนมากระทบความรู้สึกทำให้ใยบัวทุกข์ใจ!
ใยบัว กำลังถูกบีบคั้นอย่างหนัก! ในทุกเรื่องกับการงาน การเงิน และปัญหาที่เกิดจากคน
เหมือนใยบัวกำลังถูกบททดสอบในชีวิต ที่เคยได้ยินกันมาบ่อยๆว่า "ไม่มีมาร บารมีไม่เกิด"
เริ่มจากปัญหาในการย้ายที่ทำงานมาอยู่ในระดับที่สูง ต้องรับผิดชอบสูงมากขึ้นตามไปด้วย
ต้องอยู่กับคนหมู่มากหลายพ่อหลายแม่ต่างจิตต่างใจ ถูกเล่าถูกใส่ความเพราะอิจฉาไม่อยาก
ให้ใคร!ได้ดี ก็ยังตามมาด้วยปัญหาการเงินที่ต้องแยกกันอยู่กับครอบครัวอยู่กันคนละจังหวัด
เหมือนกับบ้านแตกสาแหรกขาด กินใช้กันคนละที และยังมีหนี้สินที่ต้องใช้คืนในทุกสิ้นเดือน
"สิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจ"จริงๆ เหลือเงินใช้จ่ายแค่หลักพัน ใช้ไปถึงกลางเดือนก็ลดลงเหลือใช้
กินใช้จ่ายแค่หลักร้อยเท่านั้นเอง"ใยบัว"จำต้องอยู่เพื่อชีวิตรอด! ด้วยการมาทำกับข้าวกินเอง
ด้วยเมนูทำ"ข้าวต้มหมูสับ"ไว้กินที่บ้านเช่า 3 มื้อ เช้า กลางวัน เย็น ด้วยเงินไม่เกิน 30 ฿ ต่อวัน
จำต้องย้ายมาอยู่ใกล้ที่ทำงาน เพื่อเดินไปได้สะดวก พักเที่ยงก็เดินกลับมากินข้าวเที่ยงที่บ้าน!
ขอจบตอน 1. เพียงแค่นี้ !
" แล้วอย่าลืมกลับมาพบกันใหม่!... กับเรื่องหลอนๆในบ้านเช่าหลังแรกของใยบัว! "
ตอน 2. คืนแรกคืนหลอน ! คืนนอนไม่หลับ !
กับบ้านเช่าหลังแรกที่ลำพูน ของ *ใยบัว*
เร็วๆ นี้ !
เรื่องเล่านี้มาจากประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจริง! นำมาเล่าสู่กันฟัง!
เป้าหมาย!*ให้ทำความดี งดเว้นความชั่ว!* "พึงตะหนักว่า...เวรกรรมมีจริง!"
โปรดอย่าเพิ่งเชื่อ!ใช้วิจารณญาณในการอ่าน,การรับชมรับฟังคลิปวิดีโอนี้!
*คนมีองค์* นั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับคนๆหนึ่ง! จริงๆ หรือ เป็นแค่เรื่องงมงาย!?
เชิญชมคลิปวิดีโอ
เล่าเรื่อง.!..*คนมีองค์* ของ "ใยบัว"
ในตอน....เปิดฉากเริ่มต้นของคนมีองค์
ใช้วิจารณญาณในการอ่าน,การรับชมรับฟังคลิปวิดีโอนี้!
"ใยบัว" เป็นหญิงสาวชาวเหนือ บ้านเกิดอยู่ที่อำเภอหนึ่งใกล้เมืองเชียงใหม่ 20 กม.
ลักษณะรูปร่างผอมผิวเนื้อสองสี ความสูงพอดีตามมาตรฐานของหญิงไทย เชื้อสาย
เป็นลูกครึ่งจีน กับไทย(คนเหนือ) ปู่-ตา เป็นชาวจีนแต่มาอยู่เมืองไทยตั้งแต่ตอนเด็ก
ย่า-ยาย เป็นหญิงชาวล้านนา บ้านเกิดเชียงใหม่ ทั้งสองเป็นลูกสาวโทนในครอบครัว
พ่อ-แม่ ของใยบัวจึงเป็นลูกครึ่งไทย-จีน ปู่ทวดต้นตระกูลเป็นผู้ปกครองเมืองเชียงใหม่
ได้รับพระราชทานนามสกุลจากรัชกาลที่ ๗ มีหลักฐานใบแต่งตั้งพระราชทานนามสกุล
หน้าตาของ"ใยบัว" ตอนเริ่มต้น*คนมีองค์* เมื่ออายุประมาณ 37 ปี นั้นถ้าอยากนึกภาพ
ออกเพื่ออรรถรสในการอ่านการฟังเรื่องเล่าของใยบัว ก็ให้จินตนาการเสมือนรูปใบหน้านี้
ด้านล่างนี้ ที่มีเคยมีคนมาทักว่าเหมือน ยิ่งเหมือนมากในตอนที่ "ใยบัว" โกรธ! โปรดอย่า
ลืม!ใช้วิจารณญาณในการรับชมรับฟัง! แต่ใยบัวเองนั้นไม่เคยยึดติดกับเรื่องที่มีคนทักว่า
มีหน้าตาเหมือนใครๆ เพราะมักถูกทักว่าเหมือนคนนั้นคนนี้แตกต่างกันไปตามสายตาคนดู!
