คงเป็นความผูกพันกันระหว่างแม่@ลูก
เราเคยได้พูดคุยกันกับแม่ถึงเรื่อง " การเตรียมตัวก่อนตาย "
ก็เป็นเวลาประมาณสองสัปดาห์.. ก่อนที่แม่จะเสียชีวิตไปจริงๆ
เรารู้สึกสังหรณ์ใจ,เป็นห่วงแม่ เพราะรู้ว่าอีกสองวันจะถึงกำหนด
ที่แม่จะต้องไปอยู่ที่บ้านพี่สาวเป็นเวลาหนึ่งเดือน
เราทั้งสองได้นั่งพูดคุยกันร่วม 2 ชั่วโมง จุดประสงค์คืออยากให้
ใจแม่สงบไม่ห่วงกังวลกับลูกๆหลานๆมากนัก เพื่อให้แม่รู้สึกผ่อนคลาย
ชวนให้แม่หมั่นสวดมนตร์ นั่งสมาธิบ้าง นั่งได้นิดๆหน่อยก็ยังดี
ซึ่งได้สมมุติขึ้นมาว่า...ถ้าตัวเรารู้ว่ากำลังจะสิ้นใจ ต้องทำอย่างไรดี!?
สิ่งใดต้องทำก่อนจะสิ้นลม ! แล้วดวงจิตดวงวิญญาณถึงจะ
ไปสู่สุขคติ อยู่ในภพภูมิที่ดี เราบอกแม่ว่า เราเองจะยึดถือพระพุทธเจ้า
เป็นที่ตั้ง นึกถึงองค์พระประธานที่งดงาม ซึ่งประดิษฐานอยู่ในศาลาวัด...
แล้วน้อมนำส่งดวงจิตไปยังสถานที่นั้นด้วยใจอันแน่วแน่ !
บอกแม่ว่าถึงเวลานั้นเราอย่าได้ห่วงอะไรกับใครอีกแล้วนะ
เพราะรู้ว่าได้เตรียมทุกอย่างไว้ให้ลูกหลาน ดีเท่าที่จะทำได้ไว้แล้ว
เราย้อนถามแม่ว่า แล้วแม่ล่ะ ถ้ารู้ว่ากำลังจะสิ้นใจแม่จะทำยังไง..!?
แม่ตอบว่า :" แม่ก็จะเฝ้ามองเราอยู่นะซิ ! "ได้ยินแม่ตอบ..เรานิ่งไปสิบวิ!
เราชักไม่แน่ใจว่าที่พูดคุยกันไปเป็นชั่วโมงๆนี้แม่จะรู้เรื่องหรือเปล่า..
เพราะแม่อายุ 83 ปี แก่มากแล้ว พักหลังหลงลืมบ่อย ... เราถามแม่ว่า
" ที่ลูกได้พูดๆไปมากมายเป็นชั่วโมงนี้..แม่พอจะเข้าใจบ้างไหม? "
แม่ก็ตอบสวนกลับมาทันที ! ว่า... " เข้าใจ๋ ก่า " (คำเมือง)
โปรดติดตาม...... <ตอนจบ> เร็วๆนี้ !