https://spirit-heart.blogspot.com/google.com,%20pub-3791389710662192,%20DIRECT,%20f08c47fec0942fa0 บารมี story

วันอังคารที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2563

22 ปี"เป็นคนมีองค์" ep.2.อาการกดดันร่างเมื่อองค์แฝงอึดอัด!

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ คนมีองค์

หลังจากถูกหวยวันนั้น การเงินในชีวิตก็เริ่มดีขึ้นมีเครดิตกู้เงินจากธนาคาร
ปลายปี 2542 ย้ายกลับเข้ามาเชียงใหม่เมื่อได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้น
ในที่ทำงานบรรจุรับราชการครั้งแรกอายุเพียง 19 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ซี 1 ในสมัยนั้น
ย้ายกลับเข้ามารับตำแหน่งผู้บริหารสำนักฯ ควบคุมลูกน้องมากกว่า 300 คน

ต้องพบกับรุ่นพี่น้องเพื่อนที่บรรจุเข้าทำงานพร้อมกัน ที่ต้องมาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา
การทำงานยากมีความกดดันสูงเกี่ยวกับการยอมรับ เจอความท้าทายทุกรูปแบบ
 ต้องปรับตัวสูงรับกับความรับผิดชอบระดับจังหวัด การทำงานทุกวันเครียดมาก
ครั้งนั้นได้รับผิดชอบเป็นแม่งานจัดเตรียมการประชุมใหญ่ประจำปีทั่วประเทศ

ช่วงนั้นมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของฝ่ายประจำเป็นผู้หญิงย้ายมารับตำแหน่งที่นี่
คาดว่าคงเป็น"คนมีองค์"เหมือนกันพื้นเพเดิมอยู่แถบชายแดนเขมร มีคุณไสย์ดำ
องค์ในหรืออาจเป็นของข้างในมันต้านกัน ซึ่งตัวร่างกายเรามิอาจจะรู้ได้ ดูเหมือน
เขาอยากจะข่มเราเพื่อให้อ่อนแอสยบยอมเชื่อฟังเหมือนเป็นทาสรับใช้ผู้ซื่อสัตย์

ต่อหน้าเขาพูดดีหยิกแกมหยอก องค์ในของเราคงอยากมาช่วยป้องกันตัวเรามาก
แต่เราเองยังไม่รู้ว่าเราเป็น"คนมีองค์" จึงไปเช่าอาพาร์ทเม้นท์ 4 ชั้น อยู่ชั้น 2 ซึ่งอยู่ใต้
ของคนอาศัยอยู่ด้านบน องค์ในอึดอัดบีบคั้นให้เรารู้อย่างหนัก! เข้าห้องน้ำลื่นหัวฟาด
พื้น เข้าอยู่ในห้องไม่ได้เลยใจไม่อยากอยู่ ร้อนที่ร้อนตัวไปหมด ดูทีวีฟังเพลงไม่ได้

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ วิชาไสยดำ

วันนั้นรู้สึกเพลียมากออกจากที่ทำงานไปดูสถานที่จัดประชุมใหญ่ที่โรงแรมแถว
ไนท์บาซาร์เชียงใหม่ ประสานงานกับเจ้าหน้าที่โรงแรมอยู่ดีๆ เจ้านายผู้หญิง
คนนั้นก็โทร.มาหาและให้เรากลับเข้าสำนักงานทันทีบอกมีเรื่องด่วน เรารีบนั่งรถ
กลับไปถึงสำนักงานอย่างด่วนเลย แต่เมื่อไปถึงบอกว่าไม่มีเรื่องอะไรละไปได้!!

ตอนเย็นนั่งรถกลับที่พักด้วยความอ่อนเพลียมาก คุยกับลูกน้อง พขร.ประจำตัว
เขาแนะนำว่าผมเคยเป็นนะ เมื่อได้เติมน้ำเกลือแล้วอาการดีขึ้นเลย เราลงจากรถ
ก้าวขาเดินเข้าที่พักแทบไม่ไหว ขาไม่มีแรงเลย คืนนั้นนอนก็ไม่หลับ พออีกวัน
ไปทำงานถึงตอนพักกลางวันเราจึงออกไปนอนเติมน้ำเกลือ ที่ศูนย์ฯสาธารณสุข

ขณะที่นอนพักเติมน้ำเกลืออยู่ดีๆ ก็มีโทรศัพท์มาจากเจ้านายผู้หญิง เรียกเราให้
กลับเข้าสำนักงานด่วน เพื่อเข้ามารายงานการเตรียมการประชุมฯ เรามองไปที่น้ำเกลือ
ยังคงเหลือ จึงขอพยาบาลช่วยเร่งน้ำเกลือให้  แล้วรีบนั่งรถกลับเข้าสำนักงานทันที
มีคนมาพูดให้ฟังทีหลังว่า ไม่ควรไปเร่งน้ำเกลือนะเพราะอาจจะเกิดอาการช็อค!!ได้

เราคิดว่าร่างกายจิตใจไม่ไหวแล้ว คิดหาทางอยากแข็งแรงหายจากอาการแบบนี้
เพราะมีงานใหญ่ให้รับผิดชอบรอเราอยู่ในไม่กี่วันข้างหน้านี้....ทีแรกเราสงสัยว่า...
ตัวเองโดนของมนต์ดำน่าจะมาจากแฟนเก่าที่หย่ากันไปไม่นาน เพราะเขายังโทรมาง้อ
ขอคืนดีด้วย เลยปรึกษากับพี่ที่ดูแลเรื่องศาสนพิธีสถานที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในที่ทำงาน

โปรดติดตามอ่าน ep.3 รู้ว่าเป็น"คนมีองค์"

22 ปี"เป็นคนมีองค์" ep.1 เริ่มต้นปี 2540 ย้ายที่ทำงานไปเมืองลำพูน


2540 ปีเริ่มต้นของ "คนมีองค์" ณ เมืองลำพูน



พื้นเพเป็นคนเชียงใหม่ รับราชการท้องถิ่น ปี 2535 ย้ายไปเป็นผู้บริหารที่อุตรดิตถ์
ได้ตั้งท้องคลอดลูกสาวอายุครรภ์เพียงหกเดือนครึ่งที่ รพ. ปลายธันวาคม 2537 
ขึ้นงบฯปี 2539 ย้ายกลับมารับตำแหน่งสูงขึ้นที่เมืองลำพูน(เมืองเจ้าแม่จามเทวี)
ณ ช่วงเวลานั้นมีปัญหาเข้ามาในชีวิตมากมายเห็นอย่างชัดเจนเลยทีเดียว
  
ต้องย้ายสถานที่ทำงาน ลูกยังเล็กใกล้จะ 2 ขวบ ย้ายไปทำงานลำพูน มีสภาพเหมือน
บ้านแตกแยกกันอยู่ ตัวเราทำงานที่ลำพูน ลูกสาวฝากแม่เลี้ยงที่ตัวเมืองเชียงใหม่
ส่วนพ่อของลูกกลับไปบ้านดูแลไร่สวนที่มีอยู่ที่ต่างอำเภอในจังหวัดเชียงใหม่
ค่าใช้จ่ายแบ่งออกเป็น 3 บ้าน เงินไม่พอจ่าย งานรับผิดชอบสูงขึ้นต้องปรับตัวมาก

มีปัญหาในงานถูกใส่ความจากลูกน้องหัวหน้างานเจ้าถิ่น พ่อของลูกเจ้าชู้นำผู้หญิง
เข้าบ้าน จนจับได้ต้องไปหย่า มีหนี้สินเงินไม่พอใช้ อยู่บ้านเช่าหลังที่ทำงานลำพูน
เดินไปทำงาน ตอนเที่ยงต้องกลับมากินข้าวบ้านเพราะไม่มีเงินไปกินกับเพื่อนๆ
ในวันนั้น! มีเงินเหลือติดกระเป๋าอยู่สามร้อยกว่า แบ่งไปซื้อข้าวสารมาต้มกับหมูสับ


กินข้าวต้มทั้งวัน รู้สึกทุกข์ใจมากกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับชีวิตตัวเอง เห็นลูกน้อง
คนหนึ่งเคยเจอกันตอนทำงานที่เชียงใหม่ เป็นคุณนายตำรวจ ดูเขามีชีวิตที่สุขสบาย
ตอนนี้เขาย้ายมาทำงานบ้านเกิดลำพูน เขาชอบใช้เวลาตอนเย็นระหว่างรอรับลูกเรียน
เข้าวัดสวดมนตร์ เขาถือหนังสือสวดมนตร์เล่มเล็กๆมาให้ บอกว่าให้ใช้สวดมนตร์ทุกวัน

สวดมนตร์เป็นประจำแล้วจะทำให้ชีวิตดีขึ้น บอกให้ดูชีวิตครอบครัวเขามีความสุข
เราก็เชื่อคงจริงอย่างนั้น เพราะรู้เห็นความเป็นมาของคนนี้มาตลอดหลายปีแล้ว
พอกลับถึงบ้านพักในเย็นวันนั้นก็ตั้งใจจะเริ่มสวดมนตร์เพื่อชีวิตจะได้มีอะไรดีขึ้น
อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็หยิบหนังสือสวดมนตร์มาสวดๆ แบบตะกุกตะกัก ๆๆ


โห...!! ทำไมการสวดมนตร์มันช่างอ่านยากอ่านเย็นขนาดนี้ เขาสวดได้อย่างไรกัน!
กว่าจะอ่านจบ ขอใช้คำว่าอ่านก็แล้วกัน ใช้เวลานานมาก รู้สึกว่าการสวดมนตร์ยากจัง
เก็บหนังสือสวดมนตร์แล้วเข้านอน หลับไปด้วยความอ่อนเพลียใจกาย จนใกล้สว่างได้ยิน
เสียงผู้ชายพูดขึ้นมาข้างๆหู " ไปซื้อหวยถูก 320...023 " ตกใจตื่นเสียงใครมาพูดใกล้ๆ

มองไปรอบๆแล้วก็ไม่เห็นใคร อืมมม ! เราคงฝันไป ตื่นนอนไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วเดิน
ไปทำงาน เพื่อนร่วมงานลูกน้องก็พากันเดินเข้าห้องทำงาน แล้วก็พูดถึงเรื่องซื้อหวยกัน
บอกหวยออกวันนี้..ใครจะซื้อเลขไรกันบ้าง?  อ้าวเหรอ วันนี้หวยออก เลขที่ฝันยังจำได้
ติดหู อืมน่าจะซื้อสักหน่อยเผื่อถูก เปิดดูเงินในกระเป๋าเหลือสองร้อยกว่าบาทเอง

ตัดใจหยิบเงินซื้อหวยเลขท้ายรางวัลที่หนึ่งทั้งเต็งและโต๊ด เหลือเงินติดตัวไม่ถึงร้อย 
ถ้าไม่ถูกก็คงต้องกินข้าวต้มต่อไปแล้วกัน   พอตอนเย็นหวยออกตามเลขที่ซื้อจริงๆ
ถูกรางวัลทั้งเต็งทั้งโต๊ด ได้เงินรางวัลไปใช้ต่อชีวิตน่าจะสามพันกว่าบาท  เป็นเรื่องที่
น่าอัศจรรย์มากสำหรับตัวเอง ยังคงจำเหตุการณ์นี้ได้ขึ้นใจเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน.

เหตุการณ์นี้จึงเป็น[จุดเริ่มต้น !].....ของคนมีองค์ ! 

<<<โปรดติดตามอ่านตอนต่อๆๆไป>>>

เรื่องราวจากกาลเวลายาวนานของ"คนมีองค์" น่าทึ่งอัศจรรย์ใจ มีปาฎิหารย์ สิ่งลี้ลับ
ย้อนเรื่องราวอดีตชาติ มันอัดแน่นอยู่ในใจมากว่า22 ปี  จะค่อยๆเขียนทะยอยเล่าสู่กันฟัง
ทุกวัน จากประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจริงกับตัวเอง 100% ติดตามอ่านกันเป็นซีรี่ย์ได้เลยค่ะ.



วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2562

กลัว ! การขจัดความ "กลัว" ออกไปให้ไกลตัวด้วย "สติ"

"ความรู้สึกกลัว!" มันเป็นอารมณ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว
สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกขณะจิตจากสิ่งกระทบรอบตัวเรา
เริ่มจากอาการวิตกกังวล แล้วเกิดความกลัว! กลัวมากขึ้นๆ

สภาพจิตใจไม่ดี ความคิดฟุ้งซ่าน อารมณ์แปรปรวนขึ้นลง
จนมีความรู้สึกเครียด เบื่อ ไม่มีความสุข อาทิเช่น นั่งรถไป
แล้าเอาจิตไปจดจ่อกับคนขับ..ขับเร็วไม่ดี ขับเร็วไปไม่ระวัง

แล้วจิตฟุ้งซ่าน คิดไปล่วงหน้าต่างๆนาๆ จนเกิดความกลัว!
นั่งรถไปด้วยใจเป็นทุกข์ ! ประสาทตื่นตัว เลือดลมไม่ปกติ
สิ่งแรกที่เกิดขึ้นกับตัวเราทันที คือสุขภาพจิตเสีย!, ทุกข์ใจ!

จงขจัดขยะทางอารมณ์นั้นออกไปด้วย "สติ" ให้จิตไปจดจ่อ
ตามลมหายใจ..ช้าๆลึกๆ หายใจเข้า "พุท" หายใจออก "โธ"
ช่วยลดความฟุ้งซ่าน ปั่นป่วน เรรวน ในตัวเราด้วยสติ ดีที่สุด!

ปล. " เก็บไว้...เพื่อสอนใจตัวเอง ! "


ขอขอบคุณ #โพสบทความของคุณดังตฤณ


การมีเงินมาก อาจช่วยให้เป็นสุข
แต่ไม่ได้ช่วยให้หายทุกข์จากการฟุ้งซ่าน
ต่อให้เป็นมหาเศรษฐี
บารมีเลื่องลือ ชื่อเสียงฟุ้งเฟื่องปานใด
ถ้าจัดการกับความรู้สึกไม่ได้
ก็อาจ ‘บุญไม่พอ’ ที่จะเป็นสุขทางใจ
จิตเป็นอย่างไร
ความรู้สึกในชีวิตก็เป็นอย่างนั้น
ความว้าวุ่นในหัวอย่างเดียว
ทำให้รู้สึกได้ว่าชีวิตทั้งชีวิตวุ่นวาย
ความปลอดโปร่งโล่งใจอย่างเดียว
ทำให้รู้สึกว่าชีวิตเรียบง่ายสบายดี
อะไรจะมีค่าไปกว่าการมีจิตที่ดีขึ้น
ในเมื่อจิต คือสิ่งที่คุณต้องทนรำคาญ
หรือชื่นชมยินดีอยู่ตลอดวันตลอดคืน
และจิตนี่เองเป็นต้นเค้าของกรรมทั้งปวง
เมื่อจิตสว่าง..ย่อมปรารถนาที่จะทำกรรมขาว
เมื่อจิตมืด..ย่อมใคร่ที่จะทำกรรมดำ
เมื่อจิตแบบใดตั้งมั่นในขณะมีชีวิต
หลังตายก็มีชีวิตใหม่สอดคล้องกัน
ทั้งรูปร่างหน้าตา ฐานะความเป็นอยู่ และชะตาดีร้าย
.. .. .. .. .. .. .. .. .. ..
โลกเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
บนเส้นทางที่ทุกคนเหนื่อยขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อพายุอารมณ์ปั่นป่วนรวนเรถึงจุดหนึ่ง
คนคนหนึ่งจะทนทุกข์อยู่ไม่ไหว
เป็นเหตุให้เปลี่ยนทิศทางความอยาก
พุ่งเป้าเข้ามาที่ข้างใน อยากสงบ
เหมือนอยากออกจากพายุรุนแรงกลางทะเล
กลับเข้าหาฝั่งอันเป็นสันติ
บางคนต้องวิ่งไปขอความสุข
ขอความรู้สึกว่า ‘มี’ จากใครบางคน
ที่ดูภายนอกเหมือน ‘ไม่มี’ ในสายตาคนทั่วไป
ซึ่งก็ได้แก่พระสงฆ์องค์เจ้าผู้สละเรือน
สละสมบัติ สละกรรมสิทธิ์ทุกอย่างทางโลก
เหลือเพียงผ้าพันกายกันอุจาด
กับที่อยู่ซึ่งชาวบ้านลงขันสร้างเป็นของกลาง
และอาหารที่ชาวบ้านใส่บาตรให้ตามกำลัง
เพื่อจะไม่ต้องวิ่งหนีความทุกข์
ตลอดจนไม่ต้องแบมือขอเศษสุข
จากครูบาอาจารย์ท่านไหน
สิ่งที่ผมขอแนะนำเป็นอันดับแรก คือ
ให้สังเกตเข้าไปในใจนะครับ
หลายครั้งจิต ‘หิว’ ได้เสียยิ่งกว่าท้องหิวข้าว
เมื่อใดเห็นความหิวชัดๆ ให้ถามตัวเองเมื่อนั้นว่า
"กำลังคิดอะไรอยู่?"
ไม่ว่าคุณจะคิดอะไรก็ตาม
ขอให้ตระหนักว่าความคิดนั้นผิด
เพราะไม่ทำให้ใจอิ่ม เอาแต่หิวโหยแห้งแล้ง
จะจำไว้สั้นๆเพื่อง่ายต่อการระลึกก็ได้ครับ :
"..ถ้ายังทุกข์หนักไม่เลิก
แสดงว่าที่ผ่านมาคิดผิดหมด!"
.. .. .. .. .. .. .. .. .. ..
เรื่องยากที่สุดในชีวิต
ไม่ใช่การหาสตางค์ แต่เป็นการสร้างสติ
ถ้าจะ ‘มีบุญจริงแบบพุทธ’ ต้องเจริญสติเป็น
‘บุญ’ คือที่มาของความสุข
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘ความสุขใจ’ เป็นหลัก
คนที่นั่งสมาธิเป็น เจริญสติถูก
แม้เหนื่อยกายเหมือนคนอื่น แต่ก็เลิกเหนื่อยใจ
ได้อยู่กับความสดชื่นของสมาธิ
ได้ทิ้งขยะทางอารมณ์ที่ไม่ใช่ของเรามาแต่แรก
เมื่อดูลมหายใจเป็น
เราจะได้ราวเกาะของสติชั้นดี
ที่มีติดตัวอยู่ตลอดเวลา
ตราบใดยังมีลมหายใจ
ตราบนั้นเราได้แหล่งเจริญสติเสมอ
เอาลมหายใจเข้าออกตามธรรมชาติปกตินี่แหละ
เป็นตัวแบ่ง เป็นจุดสังเกตว่า
คลื่นความฟุ้งซ่านปั่นป่วนเรรวนในตัวเรานี่
มันเข้มขึ้นหรือว่าอ่อนแรงลง
หายใจครั้งแรก รู้สึกปั่นป่วนค่อนข้างจะรุนแรง
แต่หายใจครั้งที่สองนี่ มันมีสติขึ้นมาแล้ว
สตินี่แหละครับ
จะทำให้คลื่นความปั่นป่วนลดลงตามธรรมชาติ
ตัวเห็นน้อยลงนี่แหละที่เรียกว่า ‘เห็นอนิจจัง’
เห็นความไม่เที่ยงแบบอ่อนๆ
คุณจะรู้สึกถึงสติที่เข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ
จิตมีความตั้งมั่น มั่นคงมากขึ้นเรื่อยๆ
ถึงแม้ว่าโลกภายนอกยังเต็มไปด้วยความปั่นป่วน
ไม่ต่างไปจากเดิมแม้แต่น้อย
แต่ว่าใจของเราเริ่มมีสุญญากาศจากมันแล้ว!
ร้อยเรียงจากหลากบทความของคุณดังตฤณ
*สามทุ่มคืนนี้ ขอเชิญติดตามคุณดังตฤณ Live ค่ะ
________________
รวมจิตเป็นหนึ่ง
ยกระดับประสบการณ์อธิษฐานนั่งสมาธิแผ่เมตตา ๗ วัน
สู่ปรากฏการณ์รวมจิตสองพันดวงเป็นหนึ่งเดียว
https://www.facebook.com/events/1141675152688116/

วันอังคารที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2562

4 ตระกูลพญานาคราชที่ยิ่งใหญ่ *รู้แล้วศรัทธาบูชา ให้สัมฤทธิ์ผล*

  ใครที่ได้สร้างบุญสร้างกุศลสัมพันธ์กันกับ*พญานาคราช*นั้นมาแต่ภพใด   
 ก็จะสามารถพบเจอในความศักดิ์สิทธิ์ของพญานาคราชนั้นได้อย่างไม่คาดฝัน ! 
 ส่วนตัวของเราแล้ว...มีความเชื่อ และศรัทธาในองค์ *พ่อปู่ศรีสุทโธนาคราช* 
  ได้ศรัทธาองค์ปู่ มาเป็นเวลาประมาณ 6-7 ปี ที่ผ่านมาเห็นจะได้ ซึ่งในปีแรกๆ นั้น  

  องค์ท่านได้ผ่านมาให้เห็นทางนิมิต ก็คือฝันเห็นในตอนเช้าตรู่ของวันหนึ่ง !  
 เป็นพญานาคราชสีวรกาย *เขียวทอง* ลอยอยู่บนเหนือน้ำใสสะอาด ชูพระเศียร 
 ขึ้นมาอยู่เหนือพื้นน้ำ มีดวงตากลมสีเขียวไพลอ่อนๆ สีใสแวววาวสว่างสวย  
  มองมาที่เรา ความรู้สึกในตอนนั้นคือ *แสนมหัศจรรย์* จึงจดจำได้ติดตาตรึงใจ !  

  ซึ่งเรารู้และสัมผัสได้ถึงความใจดีมีเมตตา และแฝงมาสวดมนตร์สร้างบุญบารมี  
  ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกมนุษย์นี้ เรายังคงเชื่อว่ามีความลึกลับมหัศจรรย์ ! ซ้อนอยู่  
  ตาคนเราทั่วไปไม่สามารถมองเห็นได้ง่ายๆ  เพียงรับรู้ได้ดีแค่..แต่บางคนเท่านั้น ! 
 " ดังจะเปรียบเทียบให้ผู้อ่านได้รู้ พอนึกภาพออกก็จะคล้ายๆ กับรูปภาพท้ายนี้ค่ะ " 
hqdefault

  ขอขอบคุณ ++ 2 บทความน่ารู้..ต้องรู้ !!  

ก่อนจะบูชา..ต้องรู้!! "สีวรกายพญานาค" บอกถึงสิ่งใด?? สายขาว-สาวดำ อยากเจริญรุ่งเรือง-มีเงินทอง ต้องบูชาองค์ใด? เช็คด่วนๆ!!



เรียกเป็น "ปีแห่งพญานาค" โดยแท้จริงๆ หลังบรรดาผู้ศรัทธายังคงหลั่งไหลไปกราบสักการะบูชา "องค์พญานาคราช" ตามสถานที่ต่างๆ ที่มีตำนานและความเชื่อ โดยเฉพาะที่วัดคำชะโนด อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี และเมื่อเร็วๆนี้ยังมีการค้นพบ "เกาะเจ้าแม่นาคี" หลานสาวองค์เดียวของ "เจ้าปู่ศรีสุทโธนาคราช" ที่อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เช่นเดียวกัน ก็ยิ่งสร้างความฮือฮา

และจากที่ "หมอลักษณ์ เรขานิเทศ" โหรชื่อดังชื่อดังได้กล่าวไว้ว่า ปีพุทธศักราช 2560-2565 นั้นเป็นมหามงคลแห่งปี "พญานาคราชประทานพร" ที่เชื่อวาหากใครได้สร้างบุญสร้างกุศลสัมพันธ์กับพญานาค "พ่อปู่ศรีสุทโธนาคราช" นั้นจะโชคดี มีแต่สิ่งดีๆเกิดขึ้น เป็นบุญครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต ก็ทำให้มีผู้หันมาบูชาพญานาคกันมากขึ้น แต่ก่อนที่จะบูชานั้น เคยทราบกันหรือไม่ว่า พญานาคแต่ละองค์ มีความแตกต่างกัน ดังจะเห็นได้จาก "สีวรกาย" ที่แตกต่างกัน ซึ่งนั่นไม่ใช่แค่สีสันธรรมดาทั่วๆไป แต่ยังแฝงไปด้วยความหมาย เพราะฉะนั้นหากอยากโดดเด่นด้านใด ต้องเลือกบูชาให้ถูกต้องตามคุณลักษณะด้วย ซึ่งบอกไว้ว่า
รกายสีขาว เชื่อว่า  ท่านคือผู้ทรงศีลทรงธรรม ใกล้หลุดพ้นภพภูมินาคา

วรกายสีเขียว เชื่อว่า ท่านคือผู้หยั่งรู้ทิพยโอสถ ช่วยบรรเทาความเจ็บป่วย

วรกายสีดำ  เชื่อว่า ท่านมีอุปนิสัย ดุดัน ชอบสันโดษ เรียบง่าย และมีหน้าที่ปกป้องทรัพย์สมบัติ  ใครต้องการทรัพย์จากพญานาค ก็มักจะบูชาพญานาคที่มีวรกายสีดำ
วรกายสีทอง  เชื่อว่า ท่านคือผู้ที่ใกล้ชิดและคอยดูแลพระอริยสงฆ์ และเหล่าเทวดา ชอบฟังธรรม สวดมนตรา
 
วรกายสีแดง  เชื่อว่า ท่านคือผู้ทรงฤทธิ์ มีพิษร้ายแรง

ขอบคุณข้อมูลจาก nakanews

10
ตามความเชื่อของคนไทยส่วนใหญ่ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสานแล้ว เชื่อว่าพญานาคนั้นมีจริง พญานาคนั้นเป็นสัตว์กึ่งเทพ จัดอยู่ในตระกูลเดียวกันกับงู แต่มีลักษณะใหญ่โตมาก มีหงอน มีเกล็ดสีดำมะเมื่อม มีทั้งที่นิสัยดีและค่อนข้างดุร้าย สามารถอยู่ใต้บาดาล และขึ้นมาอยู่บนโลกมนุษย์ก็ได้เช่นกัน
แม้ว่าจะมีผู้พรรณนาลักษณะของพญานาคไว้มากมาย แต่ก็ยังไม่มีผู้ใดเคยเห็นตัวจริงของพญานาคด้วยตาของตนเอง จะมีปรากฏก็เพียงในนิมิต หรือในความฝันเท่านั้น โดยไม่ใช่ทุกคนที่สามารถนิมิตเห็นพญานาคได้ หากมิใช่พระเกจิอาจารย์หรือผู้ที่มีบุญกรรมต่อกันแล้ว ก็ยากยิ่งที่จะสามารถพบเห็นได้ทั่วไป เนื่องจากพญานาคเป็นสัตว์ที่มีกายทิพย์ และมีที่อยู่อาศัยเป็นทิพย์นั่นเอง
hqdefault
พญานาคนั้นนอกจากมีฤทธานุภาพมาก สามารถจำแลงแปลงกายเป็นอะไรก็ได้ ยังมีพิษที่มีอานุภาพรุนแรงเหลือคณา เชื่อว่าพญานาคนั้นมีพิษมากถึง 64 ชนิด ต้องมีการคายพิษไว้ในที่เร้นลับทุก 15 วัน เนื่องจากหากไม่คายก็จะมีพิษอยู่ในร่างกายมากเกินไป อาจทำให้พิษย้อนเข้าตัวได้ และเมื่อเลื้อยไปที่ใด ต้องอ้าปากไว้เสมอ เนื่องจากพิษในกายที่มีความรุนแรงและร้อนระอุ การอ้าปากทำให้บรรเทาความร้อนจากพิษในกายได้ ดังนั้นจึงจะเห็นได้ว่ารูปปั้นพญานาคส่วนใหญ่จึงอยู่ในลักษณะอ้าปากนั่นเอง
พญานาคนั้นเมื่อสิ้นอายุขัยก็จะกลับคืนสู่ร่างเดิม โดยขดตัวเป็นบัลลังก์ เรียกว่า “นาคบัลลังก์” หรือนอนราบเหยียดยาว และจากนั้นสภาพร่างกายก็จะกลับกายเป็นหิน ไม่ได้ย่อยสลายเหมือนซากพืชซากสัตว์ทั่วไป และมักจะพบร่างกายของพญานาคอยู่ในถ้ำลึก หรืออยู่ใต้แม่น้ำใหญ่ แต่หากเป็นพญานาคในตระกูลสูง ที่มีญาณบารมีแก่กล้า เมื่อสิ้นอายุขัย ร่างกายก็จะแตกดับและสลายไปในทันที
%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%2594
ตามที่มีการบันทึกไว้ในพระไตรปิฎก ซึ่งเป็นคัมภีร์สำคัญที่สุดของพระพุทธศาสนานั้น เชื่อว่าพญานาคปกครองด้วยท้าววิรูปักข์ หนึ่งในท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 ซึ่งเป็นใหญ่ในสวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกา และจากนิทานปรัมปราหรือเรื่องเล่าต่างๆที่มีการบันทึกไว้ กล่าวว่าพญานาคนั้นสามารถจัดเป็นตระกูลได้ 4 ตระกูลใหญ่ๆ ซึ่งมีอำนาจ ฤทธานุภาพ และถิ่นที่อยู่แตกต่างกัน รวมถึงจำนวนพญานาคในแต่ละตระกูลก็ยังมีมากน้อยต่างกันอีกด้วย กล่าวคือ...
%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25AB
1. พญานาคในตระกูลวิรูปักข์ หรือตระกูลสีทอง ถือเป็นพญานาคชั้นสูง หรือชนชั้นปกครอง ถือกำเนิดแบบโอปปาติกะ คือเกิดแล้วโตทันทีแบบเทวดาและนางฟ้า มีอาหารเป็นทิพย์ และมีที่อยู่เป็นทิพย์วิมาน ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในสวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกา เป็นพญานาคที่มีลักษณะโดดเด่นและสวยงามที่สุด คือ มีลำตัวสีรุจน์อุไรวรรณจันทราภา มีเกล็ดทองคำบุศรินทร์ หรือสีทองมหิธาสุวรรณชาด เชื่อว่าเป็นพญานาคที่มีอิทธิฤทธิ์และพลังอำนาจมากที่สุด สามารถทำร้ายคู่ต่อสู้ได้แม้แค่ใช้สายตามอง พญานาคตนใดกำเนิดมาจากวงศ์ตระกูลนี้ ให้ถือว่าเป็นผู้ที่มากด้วยบุญญาบารมี
1436360759-7e4ee8e31e-o
2. พญานาคในตระกูลเอราปถ หรือตระกูลสีทอง ถือเป็นพญานาคชั้นสูง ส่วนใหญ่ถือกำเนิดแบบอัณฑชะ คือกำเนิดจากฟองไข่ เชื่อว่าอาศัยอยู่ในเมืองบาดาล ลึกลงไปจากใต้ดินถึง 1 โยชน์ หรือ 16 กิโลเมตร บากพวกอาศัยอยู่ในถ้ำ ลึกถึง 50 โยชน์ หรือ 800 กิโลเมตร เชื่อว่าเป็นพญานาคตระกูลที่พบได้มากที่สุด เป็นพญานาคที่มีลักษณะโดดเด่น สวยงามไม่แพ้ตระกูลวิรูปักข์ มีลำตัวเขียวมรกตจงกลนี เกล็ดมรกตสีไพลมณีรัตนชาติ มีลักษณะออกไปทางงูใหญ่ มักขึ้นมาบนโลกมนุษย์บ่อยครั้ง จึงทำให้เกิดตำนานรักมากมายระหว่างพญานาคตระกูลนี้กับมนุษย์ แม้จะถือกำเนิดจากฟองไข่ แต่หากมีการบำเพ็ญเพียรบารมี จนมีอานุภาพแก่กล้า ก็สามารถถูกจัดให้เป็นพญานาคในชนชั้นปกครองได้เช่นเดียวกัน
IMG_1218
3. พญานาคในตระกูลฉัพพยาปุตตะ หรือตระกูลสีรุ้ง ส่วนใหญ่ถือกำเนิดแบบชลาพุชะ คือกำเนิดจากครรภ์ มีถิ่นอาศัยที่นครบาดาล ใต้ดิน ในป่าลึก หรือบนภูเขา เป็นพญานาคที่มีลักษณะสวยงามมาก เนื่องจากนาคที่จัดอยู่ในตระกูลนี้มีหลายสีด้วยกัน กล่าวคือหากไม่ได้มีกายสีทอง สีเขียว หรือสีดำ ก็สามารถจัดอยู่ในตระกูลนี้ได้หมด และพญานาคบางตนยังมีเกล็ดหลายสีในตัวเดียวกันอีกด้วย นาคตระกูลนี้ส่วนใหญ่จะมีกายสีเลื่อมรุ้งมรุลี สีโกเมนสุริยฉัตรปภัศร เป็นตระกูลที่พบได้น้อย และยังมีถิ่นที่อยู่ที่ลึกลับอีกด้วย
%25E0%25B9%2588%25E0%25B9%2588%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25B0
9
4. พญานาคในตระกูลกัณหาโคตมะ หรือตระกูลสีดำ ส่วนใหญ่ถือกำเนิดแบบสังเสทชะ คือกำเนิดจากเหงื่อไคลและสิ่งหมักหมม ไม่ถือเป็นพญานาคชั้นสูง แต่ก็เป็นตระกูลที่มีฤทธานุภาพไม่แพ้พญานาคตระกูลอื่นเช่นกัน ทั้งยังขึ้นชื่อว่าเป็นพญานาคที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีถิ่นที่อยู่เร้นลับ และพบเจอได้ยากมาก เนื่องจากพญานาคในตระกูลนี้ส่วนใหญ่จะนอนหลับเป็นระยะเวลานาน มีกายเป็นนิลกาฬมหิธร มีเกล็ดเป็นนิลปาศรอมรสุภรัตน์ พญานาคในตระกูลนี้ส่วนใหญ่จะเป็นบริวารของพญานาคในตระกูลอื่นๆ
พญานาคทั้ง 4 ตระกูลที่ได้กล่าวมานั้น เป็นส่วนหนึ่งในตำนานที่ได้มีการบันทึกไว้ แต่ที่จริงแล้วเชื่อว่าพญานาคนั้นน่าจะมีวงศ์วานว่านเครือมากกว่านี้อย่างแน่นอน แต่ทั้ง 4 ตระกูลใหญ่นี้นับเป็นตระกูลที่มีฤทธิ์เดชมากที่สุด ทั้งยังมีเรื่องราวเล่าขานสืบต่อกันมามากที่สุดเช่นกัน
ตั้งแต่โบราณมาแล้วเชื่อกันว่า พญานาคที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คงหนีไม่พ้นพญานาคในตระกูลวิรูปักข์อย่างแน่นอน เนื่องด้วยไม่ว่าจะเป็นชาติกำเนิดที่สูงส่ง มากด้วยบุญญาบารมีและอิทธิฤทธิ์ นาคตระกูลนี้ยังถูกจัดอยู่ในชั้นเทพ ไม่มีการผูกเวรกับพญาครุฑ ทั้งยังเป็นพญานาคในชนชั้นปกครอง ที่มีหน้าที่ดูแลพญานาคในตระกูลที่ต่ำกว่า เชื่อว่าหากพญานาคตนใดในตระกูลนี้ ถือกำเนิดแบบโอปปาติกะแล้ว จะไม่เกรงกลัวแม้กระทั่งมนต์อาลัมพายน์ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นมนต์สะกดจิตพญานาคที่น่ากลัวที่สุดอีกด้วย
%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25AA
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถึงแม้ตระกูลวิรูปักข์จะถือเป็นตระกูลใหญ่ แต่พญานาคที่พบได้มากที่สุดกลับเป็นตระกูลสีเขียวหรือตระกูลเอราปถ เนื่องจากความใกล้ชิต และติดต่อสัมพันธ์กับมนุษย์ได้ง่าย ทั้งยังเป็นชนชั้นที่มีอำนาจบารมีมาก นาคตระกูลนี้ส่วนมากจิตใจดี ชอบช่วยเหลือมนุษย์ ทั้งยังเป็นที่พึ่งทางใจของคนทั่วไปได้เป็นอย่างดี และพญานาคในวงศ์ตระกูลนี้ ที่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย นั่นก็คือ องค์พญาศรีสุทโธนาคราช และนางพญาศรีปทุมมานาคินี แห่งเวียงนาคินทร์คำชะโนดนั่นเอง
2
ส่วนพญานาคตระกูลที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความงดงาม และความหลากหลายของสีวรกาย คงหนีไม่พ้น ตระกูลฉัพยาปุตตะ นั่นเอง ด้วยความที่พญานาคในตระกูลนี้ เป็นตระกูลที่มีหลากหลายสีสัน และส่วนใหญ่ก็จะเป็นนางพญานาคินี หรือพญานาคเพศเมีย จึงขึ้นชื่อในเรื่องของความงาม แม้ในยามที่เป็นนาค หรือยามที่จำแลงกายเป็นมนุษย์ก็ตาม
%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%25B1
พญานาคในตระกูลกัณหาโคตมะ แม้จะไม่ขึ้นชื่อในเรื่องของความงดงามมากนัก เนื่องจากเป็นพญานาคตระกูลสีดำนิลกาฬมหิธร แต่ในด้านของพลังอำนาจ อิทธิปาฏิหาริย์แล้ว พญานาคในตระกูลนี้ก็มีไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าตระกูลอื่นเช่นกัน โดยเฉพาะในครั้งพุทธกาล ที่พญานาคในตระกูลนี้ นามว่า “พญากาฬนาคราช” เป็นผู้นอนรอรับถาดทองคำ ที่องค์พระโพธิสัตว์ทรงอธิษฐานก่อนบรรลุธรรมเป็นองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้านั่นเอง นับว่าเป็นตระกูลนาคา ที่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าตระกูลอื่นเลยก็ว่าได้
ตามความเชื่อแล้ว ไม่ว่าจะเป็นพญานาคในตระกูลใดก็ตาม เมื่อถือกำเนิดมา จะต้องมีการบำเพ็ญเพียร ถือศีลภาวนา เพื่อเพิ่มญาณบารมี และพลังอำนาจให้แก่ตนเอง ดังนั้นแม้จะอยู่ในตระกูลที่ต่ำกว่า แต่หากบำเพ็ญเพียรจนมีญาณบารมีมาก ก็สามารถขึ้นไปเป็นชนชั้นปกครองได้เช่นกัน ดังเช่นองค์นาคาธิบดีทั้ง 9 ที่ปกครองเวียงนาคินทร์ในเขตแดนต่างๆทั่วโลก ก็ล้วนได้รับการคัดเลือกมาจากตัวแทนพญานาคจากทั้ง 4 ตระกูลนั่นเอง
%25E0%25B9%2580%25E0%25B9%2580%25E0%25B9%2580%25E0%25B9%2580%25E0%25B9%2580%25E0%25B9%2580
นอกจากนั้นแล้ว การบำเพ็ญเพียรภาวนาให้มีญาณบารมีมาก ยังส่งผลให้พญานาคตนนั้น สามารถแผ่เศียร หรือแผ่พังพานได้มากขึ้นตามบารมีที่มีมากขึ้นได้อีกด้วย ซึ่งการแผ่เศียรนี่เอง ที่เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่บ่งบอกถึงอำนาจและความยิ่งใหญ่ รวมถึงชนชั้นของพญานาคตนนั้นๆได้
ดังที่ได้กล่าวมาแล้วว่า ความเชื่อเรื่องของพญานาคนั้น มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ จนมาถึงปัจจุบันนี้ ความเชื่อเหล่านั้นก็ไม่เคยเสื่อมคลายลง ท่านผู้ฟังหลายท่าน ก็คงจะมีพญานาคราชที่ตนเองบูชา เคารพนับถือ และชื่นชอบอยู่ในใจกันอยู่แล้ว ไม่ว่าท่านจะนับถือพญานาคราชตนใด อยู่ในตระกูลไหนก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การเชื่ออย่างมีสติ ไม่หลงงมงายจนเกินไป และเชื่อแบบไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน และจะดีที่สุดหากท่านนำพลังแห่งศรัทธาเหล่านั้น มาเป็นพลังขับเคลื่อนให้เราอยากกระทำความดีต่อไป
บทความโดย : เพจตำนาน ความเชื่อ ลี้ลับ พญานาค

ห้ามคัดลอกไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
"ขออนุญาตแบ่งปันและขอบคุณบทความดีๆ"

วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

เลขท้ายเด็ด ! @ บัตรประชาชน..บอกนิสัยลึกๆได้ตรงจริงๆ


ดูโพสต์ท้ายบล็อกนี้! "ความเชื่อตัวเลขท้ายบัตรประชาชน"
อ่านแล้วแม่นมาก ๆ เหมือนกับนิสัยของเราจริงๆ เลขตัวท้าย
ของเราเป็นเลข 0 ซึ่งตัวเราเป็นคนที่มีนิสัยแบบนั้น มันตรง!ที่
บอกว่า เป็นคนมีโอกาส แต่ต้องพลาดโอกาสดีๆไป เพราะมัก
จะคิดมาก ลังเล กล้าๆกลัวๆ จนพลาดโอกาสดีๆ นั้นไปหลาย
ครั้งด้วยกัน  รวมทั้้งโอกาสที่เข้ามาตอนนี้และกำลังเกิดขึ้น !! 

ซึ่งขณะนี้กำลังทำตัวเองในการรักษาโอกาสนี้ไว้ให้ยังคงอยู่ไป
กับตัวเราให้ได้อีกสักระยะหนึ่ง ! รอสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตให้
พร้อมมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น  ก็ต้องใช้เวลาในการ
ยื้อโอกาสนี้ไว้ให้ได้ ด้วยความอดทนมุ่งมั่น ยอมฝืนดัดนิสัยตัวเอง
อยากรู้จัง ! ว่าความอดทนของตัวเรา จะสามารถยื้อโอกาสนี้ไว้
ได้สำเร็จหรือไม่ ? โดยที่...ไม่ไปย่ำยีศักดิ์ศรีซ้ำเติม! ด้วยตัวเอง ! 

100 วัน ผ่าน ! ได้มั่ย!? ถ้ารู้ ! และรักตัวเองก็ต้องทำให้ได้ ! 

แล้วคุณล่ะ ! ท้ายบัตรประชาชนเป็นเลขอะไร ? มันบอกนิสัยลึกๆ
ได้ตรงหรือไม่?! อย่าพลาด! เลขท้ายเด็ดดี!นี้ไป ดั่งตำราซุนวูว่าไว้
" รู้เขา รู้เรา รบ 100 ครั้ง ชนะ 100 ครั้ง "



เลขท้ายบัตรประชาชนของคุณ สามารถบอกนิสัยลึกๆของคุณ

สำหรับคนที่ชอบดูดวงมีความเชื่อเรื่องดวงเรื่องโชคขอให้คุณทำนายดูนะ เลขท้ายบัตรประชาชนของคุณ ลองใช้วิจารณญาณเอานะยังไงก็ไม่เสี ยหายอะไร
เลขท้ายที่เป็นเลข 0
เป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตนเองสูง มีคุณธรรมและเมตตาธรรม จิตใจดีมีความรับผิดชอบสูง ชอบช่วยเหลือผู้อื่น เฉลียวฉลาด ปราดเปรื่อง มีปฏิภาณในไหวพริบอันยอดเยี่ยม เต็มเปี่ยมไปด้วยความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ปรารถนาการเป็นบุคคลแถวหน้า และการได้รับความยอมรับนับถือจากผู้คนรอบข้าง แต่คุณเป็นคนที่มีโอกาส แต่ต้องพล าดจังหวะดีๆ ในชีวิตตลอด หลายครั้ง เพราะเกิดการลังเล กล้าๆ กลั วๆ
เลขท้ายที่เป็นเลข 1
แสดงถึงความเด็ดเดี่ยว กล้าทำ กล้าแสดงออก เป็นผู้นำใน หน้าที่การงานอยู่ในจำพวกแนวหน้า และบางครั้งถูกคนอื่นมาขอความช่วยเหลือทั้งทรัพย์สินเงินทอง และคำปรึกษาอยู่ตลอดเวลา จนทำให้ไม่เป็นตัวของตัวเอง แต่หากไม่พอใจใครแล้ว เขาจะไม่สนใจเลย เป็นจำพวกหยิ่ งในศักดิ์ศรี  ไม่ยอมก้มหัวเพื่อลด ศักดิ์ศรีให้ใคร  จะมีนิสัยละเอียดอ่อนในเรื่องความรัก หมดเท่าไหร่ก็ยอมเพื่อความรัก ในอนาคตหากเป็นนักธุรกิจจะประสบความสำเร็จและสามารถทำงานได้ดีทุกแขนง
เลขท้ายที่เป็นเลข 2
แสดงถึงความสำเร็จความอบอุ่นจากมิตรและบริวาร แต่บางครั้งไม่ค่อยมีความมั่นใจไปบ้าง เป็นคนที่ไม่ชอบอยู่คนเดียว หากจะลงทุนทำธุรกิจถ้าได้ร่วมทำกับคนอื่นจะดีกว่าทำคนเดียว จะมีเสน่ห์กับเพศตรงข้ามเป็นที่รักของเพื่อนๆ แต่บางครั้งจะโดนอิ จฉาอยู่บ่อย ๆ เพราะเสน่ห์ดีเกินไป ตามเลขศาสตร์บ่งบอกว่า หากจะให้ทำงานสำเร็จโด่งดังมีชื่อเสี ยงจะต้องทำงานร่วมกับคู่ครองตนเอง วัยกลางคนจะได้มีความสุขกับครอบครัว ฐานะดีมีความสบายขึ้นเรื่อยๆ
เลขท้ายที่เป็นเลข 3
แสดงถึงความทุ กข์ใจ จะมีปัญห าเรื่องต่าง ๆ ผ่านเข้ามาในชีวิตอยู่บ่อยๆ หากจิตใจไม่เข้มแข็งจะทำให้ทุ กข์ใจ ไม่สบายกายอยู่ร่ำไป และจะต้องเพิ่มการเอาใจใส่คู่ครองและครอบครัวให้มากกว่านี้ ร ะ วั ง จะมีปัญห ากับบุคคลที่ 3 เข้ามาสร้างความแต กแยกในครอบครัว เลข 3 นี้เป็นเลขแห่งเงารัก เงาร้าง ถ้าจะลงทุนทำธุรกิจไม่ควรที่จะร่วมหุ้นหรือไว้ใจบริวารให้มาก อย่าเป็นนักบุญให้ผู้อื่นจนเกิดเป็นความทุ กข์ให้กับตนเอง และหากช่วยเหลือใครแล้วจะหวังผลคงจะย าก เพราะเลข 3 เป็นเลขของผู้ให้ ๆ อย่างเดียว แต่เมื่อผ่านปัญหาทั้งปวงไปแล้วอีกไม่นานจะมีความสุขความสบายกับครอบครัวของตน
เลขท้ายที่เป็นเลข 4
แสดงถึงเลขแห่งจักรพรรดิ์ จะมีคนคอยเป็นห่วง จะเป็นที่รักใคร่ของผู้สูงอายุแต่จะมีความเหน็ดเหนื่อยมากเหมือนกัน เพราะคำว่า “แม่ทัพ” ก็รู้ความอยู่แล้วไม่มีแม่ทัพคนใดไม่มีผลงานแล้วจะได้เป็นแม่ทัพหรอกน่ะ แต่เลข 4 เป็นเลขแห่งความสำเร็จ ความยิ่งใหญ่ ความก้าวหน้า หากจะให้มีความเจริญก้าวหน้าเร็วๆ ก็ต้องกล้าทำกล้าแสดงออก กล้าตั ดสินใจ แต่ ร ะ วั ง จะมีเพศตรงข้ามหลงรัก และเข้ามาขอสวามิภักดิ์ด้วย และไม่ต้องเป็นห่วงจะทำอะไรก็จะมีคนคอยสรรเสริญอยู่ แต่ก่อนที่จะมีการเยินยอก็จะมีการติ ฉิ นก่อน หากอดทนไม่ สนใจความรู้สึกของคนอื่นได้ละก็ ชีวิตนี้รวยใจสบายกายแน่นอน
เลขท้ายที่เป็นเลข 5
แสดงถึงเลขแห่ง เ ว ท ม น ต์ และเสน่ห์หากับเพศทั่วไป มีความ ห ยิ่ ง ท ะ น ง ในตัวเอง ยอมก้มหัวให้ผู้อื่นได้แค่กาย แต่ใจนั้นไม่ ยอมใครเป็นที่ปรึกษาผู้อื่นได้ดีแต่ตนเองเวลา เ ดื อ ด ร้ อ น หาใครช่วยปรึกษาด้วยนั้นมีไม่ เพราะเลข 5 จะมีความสบายกาย แต่ทุ กข์ใจอยู่เรื่อย เพราะคิดมากจนเกินเหตุและจะเป็นที่รักใคร่ของญาติมิตรหากทำธุรกิจเกี่ยวกับเอกสารจะประสบความสำเร็จดีมีชื่อเสี ยงแต่ไม่ว่างานด้านไหน ๆ เลข 5 ทำได้หมดแต่จะต้องมีเวลาให้กับเรื่องส่วนตัว เช่น เรื่องความรักอย่าปล่อยให้นานเกินไปจะได้พึ่งพาอาศัยบุตรและบริวาร ในภายภาคหน้าจะมีความพอดีกับชีวิตเกิดความสุขตลอดไป
เลขท้ายที่เป็นเลข 6
แสดงถึงคนที่มีดีอยู่ในตัว แต่ไม่ค่อยยอมนำออกมาใช้ อย่าปล่อยเวลากับความคิดให้มากนัก เลข 6 เสน่ห์อยู่ที่ “เงา” ของตนเอง จะมีคนรักใคร่เอ็นดูทั้ง เ ด็ ก และผู้ใหญ่ แต่ต้องแต่งตัวให้มีความเด่นในตนเอง และมีจิตสัมผัสเหนือธรรมชาติ หากได้นั่งสมาธิบำเพ็ญศีลจะมีบารมีสูงมาก ผู้คนจะรักใคร่เอ็นดู จะทำอะไรก็ล้วนแต่ประสบความสำเร็จ เลข 6 ต้องลดโทนเสี ยงลงอีกเพราะโทนเสี ยงนั้นบ่งบอกถึงอำนา จความยิ่งใหญ่เกินตัว ไม่เพราะแก่ผู้ได้ยิน ผู้ใหญ่รักใคร่เอ็นดู สนับสนุนในทางการงาน เมื่อมีปัญห าใด ๆ ก็จะเอาตัวรอดได้เสมอ จะมีความสุขในบั้นปลายชีวิต
เลขท้ายที่เป็นเลข 7
อย่าปล่อยเวลาให้เสี ยไปกับคนอื่นให้มากนัก และอย่ายึดติดอยู่กับสิ่งเดิม เพราะเลข 7 เป็นเลขที่ต้องเดินทางเพื่อทำการค้า เป็นไกด์หรือทำงานที่ต้องมีการเจรจาอยู่ตลอดเวลาจะทำให้ประสบความสำเร็จดี ร ะ วั ง จะมีปัญห าเรื่องรัก ๆ  เกิดขึ้นในครอบครัว หรือเรื่องรัก 3 เส้าเกิดขึ้นในชีวิตคู่ ปัญห าต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตคุณ ก็ไม่ต้องคิดให้มากนัก เพราะทุกอย่างจะคลี่คลายไปด้วยดี การเงินถึงจะไม่คล่องบ้างบางครั้ง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะเลข 7 เป็นเลขที่ส่งลา ภผลอยู่เนือง ๆ หากผู้ใดที่ได้เลข 7 จะเหนื่อยหน่อยในระยะเริ่มต้น และอีกไม่นานจะมีความสุข มีโชคล าภ และจะได้รับความสุขกับมิตรและบริวาร
เลขท้ายที่เป็นเลข 8
แสดงถึงคนมีบุญบารมี และวาสนาดี มีชื่อเสี ยงให้คนทั้งหลายได้ประจักษ์ แต่ต้องหมั่นเรียนรู้เร่งศึกษาไม่อยู่นิ่ง  กล้าทำกล้าแสดงออก กล้าตั ดสินใจ รีบไขว่คว้าแล้วหน้าที่การงานที่ทำจะได้ผลดีเป็นที่น่าพอใจ และผู้ใหญ่จะให้ ความช่วยเหลือ ไม่หลงใหลใน กิ เ ล ส ตั ณ หาให้มากนัก ไม่สนุกจนลืมครอบครัวแล้วบั้นปลายชีวิตจะมีฐานะดีมาก เป็นที่น่าพอใจของวงศ์ตระกูล มีชื่อเสี ยงเป็นที่นับถือจากคนทั่วไป
เลขท้ายเป็นเลข 9
แสดงถึงอำนา จ ความยิ่งใหญ่ หากเป็นผู้นำจะเจริญก้าวหน้ามาก ทำงานด้วยสมองเป็นนักพูด หรือนักบรรย ายจะมีชื่อเสี ยงโด่งดัง แต่หน้าที่อันเหมาะคือ ผู้เผ ยแพร่ศๅสนๅจะมีผู้คนยกย่องสรรเสริญและยังมีจิตสัมผัส เหนือกว่าคนทั่วไป บางครั้งสามารถรับรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้ก่อนใคร ใครได้เลข 9 จะเป็นผู้อยู่เหนือลิขิตสวรรค์ทำอะไรก็สามารถประสบความสำเร็จได้ด้วยตนเอง

ขอขอบคุณบทความดีๆจาก  : postsod

วันอังคารที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2562

2 มือเราร่วมช่วยแก้วิกฤติฝุ่นพิษ @ 7 ว่านมงคล ปลูกแล้วดี-เสริมโชคลาภตัวเองและครอบครัว


อากาศต้นเดือนเมษายน ปี 2562 นี้ .. 
เชียงใหม่ (บ้านเรา) ยังคงวิกฤติฝุ่นพิษกับมาพุ่ง ! 

ตั้งแต่เดือนมีนาคม อากาศที่เชียงใหม่เข้าสู่ฤดูร้อน แต่ช่วงนี้อากาศแปรปรวนพิลึก !
ขอพูดถึงอากาศเฉพาะที่เชียงใหม่  เหมือนช่วงปลายหนาวที่ตอนเช้าๆ อากาศเย็น
ตอนบ่ายร้อนผ่าว กลางคืนกลับมาเย็นจนต้องนอนห่มผ้า ไม่ต้องเปิดพัดลมเลยทุกคืน
และปีนี้มีหมอกควันและฝุ่นละอองเพิ่มขึ้นๆ สถานการณ์ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM25 
ยังครองแชมป์อันดับ 1 ของโลกที่อากาศมีคุณภาพย่ำแย่เป็นอันตราย ! ต่อผู้คน !

ผ่านไป 1 เดือนแล้วที่ไม่เคยไปแชร์โพสต์เรื่องเหล่านี้ในโซเชียล เพราะมีความรู้สึก
สงสารบ้านเมืองของเราจนบอกไม่ถูก อยากให้เหตุการณ์นี้มันผ่านพ้นวิกฤติไปไวๆ
และเป็นความโชคดีอย่างหนึ่งที่เรามีบ้านเรือนไร่สวนอยู่พื้นที่รอบนอกของตัวเมือง
จึงแทบจะไม่มีผลกระทบอะไรกับสุขภาพยังคงปกติสุข ไม่เป็นอย่างที่มีข่าวแชร์กัน

ทุกๆวัน ที่บ้านไร่ ก็จะมีการรดน้ำ รดต้นไม้ รถพื้นหญ้า ถนนรอบๆไร่กันอยู่เป็นประจำ
เราก็เพิ่มฉีดพ่นน้ำยังต้นไม้รอบๆ บ้าน ให้ชุ่มชื่น เราสังเกตุเห็นว่าขณะฉีดน้ำขึ้นไป
บนต้นไม้ ก็จะมีลมเย็นพัดเข้ามาแรงกว่าปกติ จึงคิดหวังว่าคนเชียงใหม่ที่มีบ้านเรือน
ไร่นาสวน ในทุกๆบ้านคงจะช่วยกันคนละไม้ละมือ เพื่อเพิ่มความชื้นในอากาศมากๆๆ

แล้วช่วยให้มีลมพัดฝุ่นไป และทำให้ฝนหลวงสามารถปฏิบัติการทำฝนหลวงในพื้นที่
เชียงใหม่ได้ ถึงเวลานั้นมีลม มีฝนตก ในพื้นที่ก็จะช่วยให้คุณภาพอากาศของที่นี่ดีขึ้น
ในเฟชบุค ไปยังเพื่อนๆให้ช่วยร่วมมือกันกับเจ้าหน้าที่รัฐ ที่กำลังเร่งทำงานกันขณะนี้.




ฤดูร้อนนี้...ใจคนก็ร้อนรุ่มกลุ้มใจ ไปกับอากาศที่ร้อนอบอ้าว ค่าฝุ่นเพิ่มสูงขึ้น..ใจเย็นๆ
กันดีมั้ย !? ที่หาซื้อกันได้ง่ายๆ เป็นกระถางๆ ให้พร้อมรดน้ำ สร้างบรรยากาศกันได้ง่ายๆ 
ปลูกไว้ในบ้านเรือนเราแล้วดี เสริมโชคลาภให้ตัวเองและครอบครัว ด้วยว่านมงคลกันค่ะ


ขอแนะนำ...ว่านมงคล 7 ชนิด 

ปลูกแล้วดี-เสริมโชคลาภตัวเองและครอบครัว




เมื่อพูดถึง “ว่าน” ก็ต้องนึกถึงเรื่องดี ๆ ที่จะตามหลังการปลูกและสรรพคุณอีกมากมายที่หลายคนให้ความสนใจ เอาเป็นว่าวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับว่านมงคลระดับแถวหน้า ที่คัดมาแล้วว่าดีจริงพร้อมทั้งวิธีในการปลูก หากใครที่กำลังมองหาต้นไม้งาม ๆ มาปลูกไว้ที่บ้านสักต้น ก็น่าจะเริ่มที่ว่านมงคลเหล่านี้เพื่อเสริมโชคลาภให้กับตัวเองพร้อมทั้งคนในครอบครัว
  1. ว่านรวยไม่เลิก ใบของว่านนี้จะมีลักษณะเรียวยาวหนานุ่มและมีจุดตามใบ ก้านดอกสีขาวจะออกตลอดทั้งปีแสดงถึงความมั่นคงทางการเงิน ปลูกโดยการแตกหน่อและตัดใบปักชำ เป็นพืชที่ชอบน้ำมากแต่ต้องตั้งอยู่ในที่แดดรำไรและอากาศถ่ายเทสะดวกไม่เช่นนั้นจะเน่าเอาง่าย ๆ
  1. ว่านกวักนางพญามหาเศรษฐี ลักษณะของใบทั้งกว้างและใหญ่ ปลายเรียวแหลมและก้านใบสูง ออกดอกเป็นช่อสีขาวแบ่งเป็นช่อละ 8-9 ดอก ใช้หัวปลูกลงในดินร่วนปนทรายผสมเศษอิฐและใบก้ามปู รดน้ำปานกลาง ตั้งไว้ในที่สูงที่มีแดดรำไร จะช่วยเรียกโชคลาภให้เข้ามาไม่ขาดสายและถูกหลักตามฮวงจุ้ยที่ควรจะเป็นอีกด้วย
  1. ว่านเศรษฐีก้านทอง ไม้ล้มลุกที่มีใบยาวปลายแหลมและขอบใบทั้ง 2 ข้าง พลิ้วเป็นคลื่น มีเส้นกลางเป็นสีน้ำตาลเหลืองอ่อน ออกดอกเป็นช่อสีขาวนวล ควรใช้หัวปลูกลงในดินร่วนปนทรายผสมแกลบเผา ให้ตั้งไว้ในที่แดดรำไรและรดน้ำพอชุ่มเพราะชอบความชื้น สรรพคุณคือใช้เป็นเมตตามหานิยมเรียกเงินทองให้กับผู้ปลูกจึงเหมาะกับร้านค้าหรือคนทำธุรกิจ
  1. ว่านเศรษฐีเรือนนอก เป็นพืชล้มลุกแตกกอคล้ายเศรษฐีเรือนใน มีใบยาวเรียวแต่ขอบใบทั้ง 2 ข้างจะเป็นสีขาว หากออกดอกจะถือว่าเจ้าของนั้นมีโชคลาภและช่วยป้องกันอันตรายทั้งปวง ให้ปลูกโดยการแยกหน่อหรือนำไหลมาปลูกลงดินร่วนปนทรายใหม่ ตั้งอยู่ในที่แดดไม่มาก รดน้ำพอชุ่มแต่ไม่ต้องเปียกโชก
  1. ว่านเศรษฐีเรือนใน จุดเด่นของว่านนี้คือใบเรียวยาวขอบสีเขียวและมีเส้นสีขาวตรงกลาง มีสรรพคุณที่ช่วยดูดสารพิษภายในอาคารที่พักอาศัย ต้องปลูกโดยการเอาต้นอ่อนเอามาลงดินร่วนปนทรายที่ผสมเศษอิฐ ไม่ค่อยชอบน้ำให้รดแค่สัปดาห์ละครั้งและตั้งอยู่ในที่แดดรำไร เชื่อกันว่าจะช่วยป้องกันอันตรายและเสี่ยงทายเรื่องโชคลาภ
  1. ว่านกุมารทอง ว่านชนิดนี้จะเป็นพืชล้มลุกที่มีหัวคล้ายกับเด็กนั่งอยู่บนแท่น จึงขนานนามว่าเป็น “ว่านกุมารทอง” ออกดอกเป็นพุ่มทรงกลมปีละครั้ง เมื่อดอกออกแล้วใบจะค่อย ๆ แทงยอดออกมามีลักษณะเรียวยาวปลายไม่แหลมมาก นิยมปลูกไว้เพื่อช่วยในเรื่องอยู่ยงคงกระพัน เสริมอำนาจและบารมี ทำมาค้าขายคล่องตัว แนะนำให้ปลูกไว้หน้าบ้านหรือบริเวณศาลพระภูมิ นำหัวมาปลูกในดินปนทรายระบายน้ำได้ดีจะวางไว้กลางแจ้งหรือแดดรำไรก็ได้
  1. ว่านกวักโพธิ์เงิน-โพธิ์ทอง ว่านทั้ง 2 ชนิดนี้ต่างกันตรงที่ลายบนหน้าใบ ถ้าเป็นกวักโพธิ์เงินจะมีลายสีขาวและกวักโพธิ์ทองมีสีแดงอมชมพู ลักษณะใบกว้างคล้ายใบโพธิ์เพราะอยู่ในตระกูลเดียวกับบอน ให้ใช้หัวหรือหน่อปลูกลงดินร่วนปนทรายผสมใบไม้แห้งและฟางข้าวหรือใบจามจุรีก็ได้ เคล็ดลับในการรดน้ำหากจะรดในตอนเย็นต้องรอให้กระถางเย็นตัวซะก่อนจึงจะรดได้ ว่านนี้ใช้ในการกวักเงินกวักทองและเสริมเสน่ห์ให้กับผู้ปลูก และยังนำหัวว่านมาพอกแผลช่วยให้หายเร็วได้อีกด้วย

โพสต์แนะนำ